Author Guidelines
รูปแบบและแนวการเขียนบทความวิจัยหรือบทความวิชาการ
1. เขียนบทความภาษาไทยความยาวไม่เกิน 10-15 หน้ากระดาษ A4
- ตัวอักษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยต์หนา เฉพาะชื่อเรื่อง
- ตัวอักษร TH SarabunPSK ขนาด 14 พอยต์ เฉพาะเนื้อหา อาจมีภาพ ตาราง แผนภูมิประกอบโดยทั้งหมดต้องอยู่ในข้อจำกัด 10-15 หน้า
- การตั้งค่าหน้ากระดาษสำหรับการพิมพ์ระยะห่างจากขอบกระดาษ
1. ด้านบนและด้านซ้าย 3.81 เซนติเมตร
2. ด้านล่างและด้านขวา 2.54 เซนติเมตร
- ระบุตำแหน่งทางวิชาการ (ถ้ามี) ที่อยู่ email address ขนาด 12 พอยต์.
2. การส่งต้นฉบับ ให้ผู้นิพนธ์ส่งผ่านระบบออนไลน์
3. องค์ประกอบของบทความวิจัยหรือบทความวิชาการ ประกอบด้วยรายละเอียดดังนี้
3.1 ชื่อเรื่อง (title) ชื่อโครงการวิจัยหรือบทความวิชาการ การเขียนชื่อใช้ภาษาไทยถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ มีความกระชับ สามารถสื่อจุดประสงค์การวิจัย บทความวิชาการได้อย่างชัดเจน ในกรณีที่มีภาษาอังกฤษให้ทำเป็นตัวพิมพ์ใหญ่เฉพาะตัวแรกของคำนามและคุณศัพท์ ส่วนที่เหลือทำเป็นตัวเล็กหมด และไม่แนะนำให้ใช้ตัวสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในการพิมพ์ชื่อเรื่อง
3.2 ชื่อผู้นิพนธ์ (author and coauther) ระบุเฉพาะชื่อ และนามสกุลเต็มภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษสำหรับบทความเป็นภาษาอังกฤษ โดยใช้ตัวพิมพ์ใหญ่เฉพาะตัวอักษรแรกของชื่อและนามสกุล ถ้ามีผู้วิจัยหลายคนให้ใช้หมายเลขกำกับตามลำดับและลงเครื่องหมาย (*) เฉพาะผู้นิพนธ์ พร้อมระบุที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ ชื่อหน่วยงาน หมายเลขโทรศัพท์ และ email address
3.3 บทคัดย่อ
3.3.1 ภาษาไทย ให้มีความหมายเหมือนภาษาอังกฤษ ความยาวไม่เกิน 300 คำ โดยให้สรุปเนื้อหาของบทความทั้งหมดให้เข้าใจที่มาของการวิจัย วัตถุประสงค์ วิธีการดำเนินการวิจัยโดยย่อ ผลการวิจัย วิธีการนำไปใช้ประโยชน์และผลลัพธ์
3.3.2 ภาษาอังกฤษ (Abstract) Objective, Material and Method, Results, Conclusion เขียน 10-15 บรรทัด
3.4 คำสำคัญ (Keywords) ให้ระบุไม่เกิน 3-5 คำ ระบุไว้ท้ายบทคัดย่อทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
4. เนื้อหาของบทความวิจัย ประกอบด้วยรายละเอียดดังต่อไปนี้
4.1 บทนำ
4.1.1 ชี้ให้เห็นความสำคัญของงานวิจัยที่ทำ เขียนให้สั้น กระชับ ไม่ควรเกิน 20-25 บรรทัด
4.1.2 ค้นคว้าเพิ่มเติมว่ามีผู้ใดทำงานวิจัยในลักษณะใกล้เคียงแล้วบ้าง ได้ผลอย่างไร (อ้างอิง)
4.2 วัตถุประสงค์ของการวิจัย
4.2.1 ระบุแนวทางการวิจัย จุดประสงค์ ให้เขียนเป็นความเรียงหรือจัดลำดับความสำคัญแล้วเรียงเป็นหัวข้อ
4.3 การทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง
4.4 สมมติฐานการวิจัย (ถ้ามี)
4.5 ระเบียบวิธีการวิจัย อธิบายวิธีดำเนินโครงการให้เห็นขั้นตอน กระบวนการ ระบุของเขตของการวิจัย วิธีเลือกกลุ่มตัวอย่างให้ชัดเจน ในลักษณะที่หากมีผู้อื่นต้องการทำวิจัยในลักษณะเดียวกันสามารถอ่านและนำไปปฏิบัติได้
4.6 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
4.7 ผลการวิจัย อธิบายผลที่เกิดจากการวิจัยโดยตรง ไม่มีการแสดงความคิดเห็นในส่วนนี้ อาจมีภาพประกอบ แผนภูมิ ตาราง
4.8 สรุปและอภิปรายผล สรุปและอ้างอิงให้เห็นว่าการดำเนินงานดังกล่าวได้สร้างองค์ความรู้ใหม่ นวัตกรรมหรือทางเลือกใหม่ให้แก่พื้นที่ องค์กร ชุมชน สังคมและประเทศชาติอย่างไรและอธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากผลการดำเนินงานให้เป็นรูปธรรม
4.9 ข้อเสนอแนะ
4.10 กิตติกรรมประกาศ (ถ้ามี)
4.11 รายการอ้างอิง
กรณีอ้างอิงบทความวิจัยจากวารสารใช้รูปแบบ
ชื่อสกุล . ปี พ.ศ. . ชื่อบทความ . ชื่อวารสาร ปีที่ . หน้าแรกของบทความ-หน้าสุดท้ายของบทความ .
ตัวอย่างรายการอ้างอิง
ปรียา ปันธิยะ. (2554). ความผูกพันองค์กรและคุณภาพชีวิตในการทำงานของบุคลากร วิทยาลัยการอาชีพเกาะคา จังหวัดลำปาง. วารสารการจัดการ, 4(1): 40-51.
อุทัยพรรณ สุดใจ. (2545). ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการที่มีต่อการให้บริการขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยจังหวัดชลบุรี. วิทยานิพนธ์สาขาสังคมวิทยาประยุกต์. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
March, R. M. , & Manari, H. (1977). “Organization commitment and turnover : A predication study”. Administrative Sociological Quarterly. 22: 57-75.
ชมัยพร วิเศษมงคล. (2553). ผู้ประกอบการในยุคเศรษฐกิจสร้างสรรค์. [Online] Available: http://www.manager.co.th/SMEs/. ค้นเมื่อ [2555, มีนาคม 7].